ร้านนี้เปิดกะละมังขายขาหมูต้มแบบเซี๊ยะกันตั้งแต่ไก่โห ตี 3ครึ่ง ยัน บ่าย 3 โมง เปิดทุกวัน เว้นวันหยุดชาวไทยเชื้อสายจีน อย่างตรุษจีนและสารทจีนเท่านั้น ร้าน “ขาหมูเลิศรส” เฮียตั้ว มีจส.100 เป็นตราการันตีด้วยว่า จราจรคับคั่งจริง หาไม่ยากเลย ไปถึง เป็นตึกแถวห้องเดียว ไม่ใหญ่โต แต่ดูขลัง ไปวันอาทิตย์มีวางโต๊ะเรียงยาวหน้าบ้านถัดมา นั่งโซ้ยข้างนอกดูจะฟิลลิ่งดีกว่า
ขาหมูเนื้อหนังเด้งๆหยุ่นๆจานใหญ่มาเสิร์ฟตรงหน้า พร้อมกับข้าวสวย 2 จาน ราดน้ำพะโล้ต้มขาหมูมาสักทัพพีพอให้กรุบกริบ
มาเริ่มกันที่ “ขาหมู” สัมผัสจากสายตาก่อนเลยนะ เนื้อหมูมากับเนื้อหนังเด้งๆ กับน้ำพะโล้ที่รู้สึกว่า ไม่เข้มเท่าที่ควร (อาจเป็นสูตรของทางร้าน เพราะเข้มหรือจางขึ้นอยู่กับซีอิ้วที่ระดมใส่) เมื่อนำทั้งสามส่วนมาราดข้าว ราดด้วยพริกน้ำส้มสายชู กลมกล่อมสมคำร่ำลือ
สัมผัสจากลิ้นส่วนตัว วิจารณญาณส่วนบุคคลนะ ตัวเนื้อขาหมูต้มตุ๋นมาอย่างดี เนื้อไม่เหนียววิ่งจี๊ดเข้าซอกฟันแต่อย่างใด นุ่มสมกับตำนาน “ขาหมูเซนต์หลุยส์”จริงๆ
ส่วนหนัง 3 ด. “เด้ง ดึ๋ง ดั๋ง” ไม่ต้องพูดถึง ฟินนนนนนนนเป็นที่สุดเลย แต่เมื่อมาถึงตัวน้ำพะโล้ที่ติดใจตั้งแต่แรกเห็นว่าอาจเป็นสูตรลับของทางร้านแต่ละร้าน ซึ่งก็จริง เพราะไม่ทราบว่าในอดีตอันยาวนาน น้ำพะโล้ขาหมูเป็นอย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า
แต่ถ้าเทียบกับในอดีตที่เคยฟาด “ขาหมูตรอกซุง” (ย้ำในอดีต เพราะกาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป)น้ำพะโล้ขาหมูจะสีเข้มกว่านี้ และตั้งทิ้งไว้อุณหภูมิห้องเท่านั้น ระหว่างกำลังฟาดไปเรื่อยถึงกับน้ำเป็นคอลลาเจนขึ้นวุ้น เป็นเมือกๆบนผิวบนเลยทีเดียว แม้ว่าน้ำพะโล้นี้จะไม่ใช่แบบนั้น แบบว่าเข้าใจว่า อาจคนละสูตร แต่ก็เข้มข้นในระดับหนึ่ง พอไหวอยู่
เพื่อความคล่องคอ มี แกงจืดสาหร่ายหมูสับ มาเสริม รสชาติของน้ำแกงก็เฉยๆเหมือนกับ พริกน้ำส้มสายชู สาหร่ายที่ใส่ หมูสับที่ลงในแกงจืด ก็ดูเป็นอาหารเคียงจริงๆ ไม่ต้องกินก็ไม่ผิด เพราะร้านนี้ เค้าเน้นขาหมูจริงไหม
หลังพายุหิวพัดกระหน่ำพัดผ่านไป ความเสียหายที่เกิดขึ้น ขาหมูจานใหญ่ 100 บาท ข้าวเปล่าจานละ 10 บาท สองจาน แกงจืด 30 – 40 บาท (จำมิได้) ไข่ไก่สองฟอง 20 บาท
เรียกว่า 170-180 บาท ซัดไปเต็มคราบ อิ่มหนังท้องปริระดับกลางๆ จัดระดับไฟเหมือนเดิม ขาหมูให้ไฟเขียวอ่อนๆนะ เรียกว่า สักครั้งหนึ่งก่อนตายควรมากินซะ ให้รู้ว่า
ขาหมูในตำนาน ขาหมูเซนต์หลุยส์เป็นอย่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น